คาดเข็มขัดนิรภัย

เขียนโดย webmaster เมื่อ
คาดเข็มขัดนิรภัย
“เข็มขัดนิรภัย” คืออุปกรณ์นิรภัยติดรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดความรุนแรงให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์จากอันตรายในกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุ ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ต้องมีการติดตั้งมาพร้อมกับรถยนต์ทุกคันจากโรงงานผลิตรถยนต์ ทั้งนี้ ผลการศึกษาวิจัยถึงประสิทธิผลของการใช้เข็มขัดนิรภัยในประเทศไทย พบว่าสามารถช่วยลดจํานวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ถึง ร้อยละ34 ซึ่งหมายความว่า ในจํานวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์จํานวน100 รายนั้นสามารถรอดชีวิตได้ถึง 34 คน ถ้ามีการใช้เข็มขัดนิรภัย และเมื่อหาอัตราความเสี่ยง พบว่า ผู้ที่ไม่ใช้เข็มขัดนิรภัยนั้นมีอัตราความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มากกว่าผู้ที่ใช้เข็มขัดนิรภัยถึง 1.52 เท่า [1]
 
พฤติกรรมการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทย
 
ปัจจุบันยังมีผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์เป็นจํานวนมากที่ละเลยการคาดเข็มขัดนิรภัยในขณะขับขี่ หรือโดยสารรถยนต์ จากการสำรวจด้วยวิธีการสังเกตพฤติกรรมการคาดเข็มขัดของผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์ตอนหน้าทั่วประเทศด้วยวิธีการสังเกตในปี พ.ศ. 2553 และ 2554 พบว่า มีการคาดเข็มขัดนิรภัยในกลุ่มผู้ขับขี่ประมาณร้อยละ 60 ในขณะที่พบว่าผู้โดยสารคาดเข็มขัดเพียงร้อยละ 40 [2, 3]
 
จากข้อมูลที่รายงานใน Global Status Report on Road Safety ปี 2013 โดยองค์การอนามัยโลก [4] พบว่าประเทศไทยยังมีอัตราการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าในสัดส่วนค่อนข้างต่ํา เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ มีอัตราการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า สูงกว่าร้อยละ 80
 

รูปที่ 1   การเปรียบเทียบอัตราการคาดเข็มขัดนิรภัยในระดับนานาชาติ
ที่มา: องค์การอนามัยโลก (2013)

 
สถานการณ์ปัจจุบัน

ในปี พ.ศ. 2553 และ 2554 ผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทยมีการคาดเข็มขัดนิรภัยในกลุ่มผู้ขับขี่ประมาณร้อยละ 60 ในขณะที่พบว่าผู้โดยสารคาดเข็มขัดเพียงร้อยละ 40 [2, 3]

ข้อกำหนด/กฎหมายบังคับ
  • ในประเทศไทยได้มีการออกกฎหมายบังคับให้รถยนต์ดังต่อไปนี้จะต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัย ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล(รถเก๋ง) รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัดและรถยนต์รับจ้างบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน7 คน(รถแท็กซี่) ที่จดทะเบียนตั้งแต่1 มกราคม พ.ศ. 2531 แลรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน7 ที่นั่ง(รถตู้) รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล(รถปิคอัพ) รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีจํานวนที่นั่งไม่เกิน15 ที่นั่ง และรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของที่มีน้ําหนักรถไม่เกิน1,600 กิโลกรัม ที่จดทะเบียนตั้งแต่1 มกราคม พ.ศ. 2537
  • ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งตอนหน้าแถวเดียวกับผู้ขับขี่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย หากไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะมีความผิดตาม พรบ.จราจรทางบก โดยปรับรายละไม่เกิน 500 บาท
ข้อมูลระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บ (Injury Serveillance Data) ของโรงพยาบาลเครือข่ายระดับชาติ ปี พ.ศ. 2554 โดยสํานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
พบว่า ผู้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนที่เป็นผู้ขับขี่รถยนต์มีสัดส่วนการคาดเข็มขัดนริภัย เพียงร้อยละ 15 ในขณะที่ผู้โดยสารมีสัดส่วนการคาดเข็มขัดนิรภัยเพียงร้อย 6 เท่านั้น [5]
 
ข้อมูลผลการสํารวจด้วยแบบสอบถาม (Self-Reported Survey) ของผู้ใช้รถยนต์ทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2553 พบว่า
  • สาเหตุส่วนใหญ่ของการไม่คาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใช้รถยนต์ ทั้ง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าใน 3 อันดับแรก คือ เดินทางระยะใกล้ ร้อยละ 51 ไม่ได้ขับขี่ออกถนนใหญ่ ร้อยละ 29 และเร่งรีบหรือต้องขึ้น-ลงรถบ่อย ร้อยละ 28
  • โดยเฉลี่ยผู้ขับขี่ ร้อยละ43 มีทัศนคติว่าไม่จำเป็นต้องคาดเข็มขัดนิรภัย หากเดินทางใกล้ๆ หรือขับรถในซอย
 
รูปที่ 2 สาเหตุของการไม่คาดเข็มขัดนิภัยของผู้ใช้รถยนต์

 

เอกสารอ้างอิง

1. Boontob, N., Tanaboriboon, Y., Kanitpong, K., and Suriyawongpaisal, P. (2007) Impact of SeatbeltUse to Road Accident in Thailand, Transportation Research Record 2038, Journal of Transportation Research Board, pp 84-92.
2. อัตราการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2553, มูลนิธิไทยโรดส์ และเครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนน, 2555
3. อัตราการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใช้รถยนต์ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2554, มูลนิธิไทยโรดส์ และเครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนน, 2556
4. Global Status Report on Road Safety: Supporting a Decade of Action, World Health Organization, 2013
5. ข้อมูลระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บของโรงพยาบาลเครือข่ายระดับชาติ, สํานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข